วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555



เกมส์ คือ ?


           เกมส์ถือเป็นสิ่งบันเทิงสิ่งหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลชนิดหนักหน่วง เกมส์ในโลกของดิจิทัลกลายสภาพเป็นสิ่งทรงเสน่ห์ที่เหล่าเยาวชนทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะได้สัมผัสมัน และเมื่อได้พบเจอก็เกิดอาการสุ่มหลงขึ้นอย่างชนิดถอนตัวได้ยากยิ่งสำหรับเด็กหลายๆคน    ความรุนแรง สิ่งยั่วยุต่าง ๆ ภายในเกมส์ มีผลกระทบให้เด็กก่อพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อขึ้นมากมาย ดังที่เราได้พบเห็นบ่อยครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง อย่างไรก็ดีคงต้องยอมรับว่า เกมบางประเภทนั้น อยู่ในข่ายที่ไม่เหมาะสมจริง ไม่ว่าจะในแง่ของโครงสร้างเกมแนวคิดของเกมส์วิธีการเล่น หรือ สิ่งต่าง ๆ ที่แสดงอออกมาภายในเกม ทั้งนี้ ปัจจุบันเกมในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นเกมส์แนวสงคราม ที่ต้องมีการรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งมีความรุนแรงอยู่ในตัวของมันเอง อย่างที่บอกว่า สงครามไม่มีประโยชน์กับใครทั้งสิ้น แต่เกมส์สงครามกับมีมากมายเกลื่อนตลาด ซึ่งนั่นส่งผลต่อการเล่นของเยาวชนโดยตรงแน่นอน ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า สงครามคือสิ่งที่ดีอีกทั้งเป็นการบ่มเพาะนิสัยใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหาต่างๆ นอกจากนั้นยังมีเกมส์ที่ออกตามฆ่าคนอย่างทารุณโหดเหี้ยมการวางระเบิดสถานที่สำคัญต่างๆเกมส์ที่ออกหาเหยื่อผู้หญิงเพื่อตามข่มขืนเกมส์ทรมานคน ที่ออกหาเหยื่อมาจับขังไว้ทำการทรมานจนตายเกมส์จีบสาวแล้วหลอกฟันไปเรื่อยๆใครฟันสาวได้มากก็ได้คะแนนมากฯลฯ






ประเภทของเกมส์   
   ลักษณะการเล่น

                     Long term หมายถึงเกมส์ที่มีเนื้อเรื่องยาว หรือมีฉากต่อกันและต้องเล่นให้ผ่านไปฉากต่อไปเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น เกมส์ RPG - FinaFantasy Tales Rockman เกมส์ตะลุยด่าน Mario Rockman DarkCloud





                Casual เกมส์ที่ไม่เน้นว่าจะต้องเล่นตามเนื้อเรื่อง อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ มักจะจบเป็นฉากต่อฉากไม่ต่อกัน หรืออาจจะไม่มีการผ่านฉาก มีแค่ฉากเดียวแต่จะเพิ่มความยากจนถึงระดับที่ผู้เล่นจะแพ้ไปเอง ตัวอย่างเช่น เกมPuzzle - เกมส์เต้น เกมแฟลช Tetris หรือเกมส์ Strategy เกมส์ Fighting เช่น DotA





                 Real time เป็นกฎการแบ่งเวลา ให้การเคลื่อนไหวในเกมส์เป็นการเคลื่อนไหวตามเวลาจริง ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ เกมส์ Action/Adventure หรือ Fighting ที่เน้นการควบคุมอย่างสมจริง เหมาะกับเกมส์ที่เน้นการตอบสนองหรือการมีทักษะ






                Turn base เป็นกฏการแบ่งเวลา ที่ให้เวลาของเกมส์ไม่อิงกับความเป็นจริง โดยจะมีการหยุดพักให้ผู้เล่นได้คิด เลือก ตัดสินใจทำอะไรในส่วนที่กำหนดไว้ และวางแผนจัดการสิ่งที่ต้องทำ ตัวอย่างเกมส์ประเภทนี้ เช่น เกมส์กระดานอย่างหมากรุกและเกมส์ Tactics หรือเกมส์ RPG อย่างเช่นไฟนอลแฟนตาซี เกมส์ Strategy อย่าง Heroes of Might and Magic



สาเหตุที่ทำให้เด็กติดเกมส์

                      1. การเลี้ยงดูในครอบครัวมักจะพบเด็กติดเกมส์ได้บ่อย ในครอบครัวที่เลี้ยงเด็กโดยไม่เคยมีวินัยในตนเอง ขาดกฎระเบียบ กติกาในบ้าน ตามใจเด็ก หรือมักจะใจอ่อนไม่ค่อยทำโทษ เมื่อเด็กกระทำผิด บางครอบครัวมีลักษณะที่สมาชิกต่างคนต่างอยู่ ไม่มีกิจกรรมร่วมที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน หรือไม่มีกิจกรรมที่สมาชิกทุกคนต้องทำร่วมกัน ทิ้งให้เด็กเกิดความเหงา ความเบื่อหน่าย เด็กจึงต้องหากิจกรรมอื่น เพื่อทำให้ตนเองสนุก ซึ่งก็หนีไม่พ้นการเล่นเกมส์ พ่อแม่อาจจะไม่มีเวลาดูแล และควบคุมเด็ก หรือมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องจำกัดเวลาในการเล่นเกมส์ของเด็ก ในช่วงแรกพ่อแม่อาจจะรู้สึกพอใจที่เด็กเล่นเกมส์เงียบๆ คนเดียวโดยไม่มารบกวน ทำให้ตนมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น (พูดง่ายๆ คือ การใช้เกมส์เสมือนเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กแทนตน) 
                     2. สังคมที่เปลี่ยนแปลง สังคมยุคไฮเทคที่มีเครื่องมือที่มีพลังในการเร้าความตื่นตัวให้เกิดในตัวเด็กอย่างมหาศาล สังคมวัตถุนิยม สังคมที่ขาดแคลนกิจกรรม หรือสถานที่ ที่เด็กใช้ประโยชน์ หรือเรียนรู้โดยได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เด็กหันไปเล่นเกมส์เป็นทางออก
                       3. ปัจจัยในตัวเด็กเอง เด็กบางกลุ่มมีความเสี่ยงต่อการติดเกมส์มากกว่าเด็กทั่วไป เช่น เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) เด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์ ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล เด็กที่ขาดทักษะทางสังคม เข้ากับเพื่อนไม่ได้ เด็กที่มีปัญหาทางการเรียน เด็กที่มีความรู้สึกว่าคุณค่าในตนเองต่ำ แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กติดเกมส์ อยู่ที่กลุ่มเพื่อน เด็กหลายคนจะกลัวการเข้ากลุ่มกับเพื่อนไม่ได้ หากไม่ทันกระแส หากไม่เล่นเกมส์ที่กำลังฮิตกันอยู่ในปัจจุบัน เกมส์ให้ความเพลิดเพลิน มีความท้าทาย และจะเพิ่มความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้เด็กต้องเอาชนะ และอยากเล่นอย่างต่อเนื่องเพราะการเล่นจนชนะ จะกลายเป็นฮีโร่ และเด็กจะกลายเป็นคนก้าวร้าว และไม่มีเหตุผล ภาวะทางอารมณ์ของเด็กจะเปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ผลกระทบทางจิตใจจะทำให้เกิดความรุนแรงทางอารมณ์ คือ ต่อต้าน และหดหู่ ซึมเศร้า หากไม่ได้เล่น จะมีพฤติกรรม เช่น หนีเรียน เก็บตัว นานๆ ไป เด็กจะกลายเป็นคนแปลกแยก ไม่มีสังคม ขาดความสัมพันธ์กับสังคม และครอบครัว
                      4. เพื่ออนาคตของลูกหลาน เพื่ออนาคตของชาติ แนวทางของพ่อแม่ ควรปกป้องตั้งแต่เด็กยังไม่ติดเกมส์ โดยการฝึกให้รู้กติกา ขอบเขต และทักษะในการควบคุมตนเอง จัดการสิ่งแวดล้อมให้สงบไม่มีสิ่งกระตุ้นเรื่องเกมส์ จัดการเข้าค่ายครอบครัว นำภาพอดีต และสิ่งดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง บอกเล่าความในใจ ความรู้สึกที่ดี เพราะการเรียนรู้นอกห้องเรียนเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์เรียนรู้ของเด็กๆ ให้พวกเขาเติบโตขึ้นมามีการพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์ที่สมบูรณ์ได้อย่างดี
                       5. ในปัจจุบันยังมีพ่อแม่บางส่วนที่สับสน และเข้าใจผิดว่าการที่ลูกไม่ได้เล่นเกมส์นั้น เป็นการปิดกั้นความคิดและจินตนาการของเด็ก จริงๆ แล้วเกมส์มีรูปแบบตายตัวทำให้เด็กไม่ต้องใช้ความคิด และการแก้ไขปัญหามีแต่การใช้อารมณ์ และการเอาชนะ พ่อแม่ต้องมั่นใจว่าตนเองมีเหตุผลเพียงพอที่จะโน้มน้าวเด็กให้รู้จักดำเนินชีวิต และเปิดโอกาสให้เขาพบกับโลกที่น่าอยู่มากกว่าการเล่นเกมส์ หรือจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์มาทดแทน สร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งต่อการใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ อย่างพ่อแม่คู่คิด เพื่ออนาคตของลูกหลานต่อไป



                            ลักษณะของเด็กติดเกมส์



             1.ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เล่นในเวลาที่กำหนด ทำให้ใช้เวลาในการเล่นเกมนานติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมง หรือเล่นนานขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มเป็นหลายชั่วโมงต่อวัน บางคนเล่นข้ามวันข้ามคืน

            2.หากถูกบังคับให้เลิกหรือหยุดเล่นจะต่อต้าน หรือมีปฏิกิริยาหงุดหงิดไม่พอใจอย่างรุนแรง บางคนถึงขั้นก้าวร้าว อาละวาด

           3.การเล่นของเด็กมีผลกระทบต่อหน้าที่ความรับผิดชอบของเด็ก เช่น เด็กไม่สนใจการเรียน ไม่สนใจที่จะทำการบ้าน หนีเรียนหรือแอบหนีออกจากบ้านเพื่อจะไปเล่นเกม การเรียนตกลงอย่างมาก ละเลยการเข้าสังคม หรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว
        4.บางรายอาจมีปัญหาพฤติกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โกหก ลักขโมย เพื่อนำเงินไปเล่นเกม ดื้อต่อต้านแยกตัว เก็บตัว ฯลฯ





ปัญหาทางสังคม


1. ปัญหาอาชญากรรม เช่น การลักขโมยเพื่อนำเงินไปเล่นเกม การบังคับขูดรีดเงินจากคนที่อ่อนแอกว่าเพื่อนำเงินไปเล่นเกมส์
2. ปัญหาการค้ามนุษย์ คือ การที่เด็กต้องเข้าสูการขายบริการทางเพศ หรือการขอทานเพื่อนำเงินมาเล่นเกม
3. ปัญหาความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เมื่อเด็กติดเกมแล้ว ถ้าเด็กยังไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะเรื่องจริง และเกม อานำความรุนแรงจากเกมมาใช้แก้ไขปัญหาในชีวิตจริง
4. โดนล่วงละเมิดทางเพศ เพราะเด็กส่วนใหญ่จะออกไปเล่นนอกบ้าน และบางเกมยังมีการแชทได้ด้วย ทำให้มีการนัดแนะ และก่อให้การหลอกลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ
5. ปัญหาการติดสารเสพติดและยาเสพติด เนื่องจากมีการคบเพื่อนที่หลากหลายมาขึ้น อาจเป็นทั้งผุ้เสพ หรือค้ายาเพื่อนำเงินมาเล่นเกม





ผลกระทบต่อตัวเด็ก


1. ด้านสุขภาพร่างกาย(เชิงพัฒนาการ)
1.1.   ภาวะทุพโภชนาการในเด็กเล่นเกม ซึ่งมีทั้งเด็กขาดสารอาหาร และภาวะโภชนาการเกิน  เนื่องจากการที่เด็กเล่นเกมนั้น การใส่ใจในการรับประทานอาหารจะลดลงทั้งในด้านปริมาณ และคุณภาพ เด็กบางคนเล่นจนไม่กินอะไรเลย หรือกินไม่ครบ มือ และอาหารที่กินเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์คุณภาพต่ำ และกินซ้ำแบบเดิม เช่น ร้ายเกมบางร้าน มีการขายอาหารสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารง่ายๆ เช่น มาม่า ข้าวผัด ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น ส่วนบางคนนั้นก็จะกินมาก กินแต่ขนม ทำให้ได้รับพลังงานเกิน เพราะขาดการออกกำลังกาย จึงก่อให้เกิดภาวะโภชนาการเกิน หรือโรคอ้วนได้ แต่มีงานวิจัยจากอเมริกาที่กล่าวว่า ผู้ที่เล่นเกมส์มีค่าดัชนีมวลกายปกติ แต่จะมีภาวะซึมเศร้าเพิ่มสูงขึ้น
1.2.   ภาวะพร่อง Growth Hormone(GH)  เนื่องจาก GH จะหลั่งในช่วงระหว่างเที่ยงคืนถึงหกโมงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กนอนหลับสนิท ถ้าเด็กเล่นเกมจนอดหลับอดนอน นอนไม่พอ จะทำให้การหลั่งของ GH น้อย ส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เพราะ GH เป็นตัวเร่งการเจริญเติบโตด้านร่างกายของเด็ก
1.3.   ร่างกายอ่อนเพลีย เนื่องจากขาดการพักผ่อนส่งผลให้สมองมีความเฉื่อยชา ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง เนื่องสมองอ่อนล้า อีกทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ดังที่ได้เห็นตามสื่อต่างๆ ว่าเล่นจนช๊อคเสียชีวิตคาร้านเกม เป็นต้น
1.4.   เสี่ยงต่อการติดโรคติดเชื้อ เนื่องจากสถานที่เล่นเกมมีผู้ใช้บริการมากมาย หากทางร้านไม่มีมาตรการด้านการรักษาความสะอาดที่ดี จะกลายเป็นแหล่งรังโรค อีกทั้งเด็กที่ติดเกมยังขาดพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ และสุขอนามัยที่เหมาะสม ขาดการพักผ่อน มีภาวะขาดสารอาหาร จึงง่ายต่อการติดโรคติดเชื้อได้ เช่น ในกรณีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นต้น
1.5.   จากงานวิจัยของโรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าการเล่นเกมทำให้ค่า IQ สูงขึ้น มีสมาธิดีขึ้น แต่ความเก่งที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ส่งผลต่อระดับผลการเรียนของเด็ก แต่เด็กจะมีสมาธิในการเล่นมากขึ้น ซ้ำยังส่งผลให้ผลการเรียนตกต่ำอีกด้วย
1.6.   ปวดขอมือ เนื่องจากการเล่นต้องใช้กล้ามเนื้อส่วยนี่เป็นเวลานาน อาจเกิดการอักเสบได้
1.7.   เกิด Carpal tunnel Syndrome มีอาการตาแห้ง ล้า จากแสงของจอคอมพิวเตอร์ เนื่องจากการเล่นเกมตองมีการเพ่งและใช้สายตามาก อีทั้งยังมีอาการปวดศีรษะ และปวดหลัง ร่วมด้วย

          

   2. ด้านสุขภาพจิต
2.1.   ทำให้โอกาสที่จะสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นน้อยลง กลายเป็นคนแปลกแยก ไม่มีสังคมเพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเล่นเกม ทำให้เด็กอาจมีพฤติกรรมกลัวสังคมได้ ซึ่งจะมีอาการปิดตัวไม่สุงสิงกับใครเก็บตัวอยู่ในห้องเพียงลำพัง
2.2.   การที่เด็กเล่นเกมที่รุนแรงมากและใช้เวลาในการเล่นติดต่อกันต่อครั้งนานเกินไปทำให้เกิดผลเสียทางด้านอารมณ์ เด็กจะก้าวร้าวรุนแรง ชอบเอาชนะ โมโหร้าย นอกจากนั้นยังจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมดื้อ ต่อต้าน และหดหู่ ซึมเศร้าหากไม่ได้เล่นเกม
2.3.   เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ เนื่องจากเด็กในช่วงวัยรุ่น ตามทฤษฎีของ Erikson นั้น เป็นช่วงที่กำลังคนหาตัวเอง และมักหาตัวแบบในการเลียนแบบในสิ่งที่ตนเองชอบ อีกทั้งเด็กวัยนั้น สมองส่วนหน้ายังพัฒนาไม่สมบูรณ์ทำให้ความยับยั้งชังใจยังไม่ดีพอ อาจแยกไม่ออกระหว่างโลกของความเป็นจริงกับเกม อาจนำวิธีที่ใช้ในเกมมาแก้ปัญหาของตนเองได้ ดังที่ได้เห็นจากข่าวต่างๆ ที่ปรากฏ มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
2.4.   ภาวะความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ ในช่วงวัยเด็ก และวัยรุ่น หากมองตามทฤษฎีของ Visgosky นั้น การที่เด็กเรียนรู้อะไรนั้น จำเป็นต้องมีตัวช่วยในการส่งเสริม แต่ถ้าเด็กเล่นเกมมากก็จะขาดตัวเสริมเหล่านี้ ทำให้เด็กเรียนรู้ตามมีตามเกิด หรืออาจเดินผิดทางได้ ส่งผลระยะยาวให้เด็กขาดทักษะในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต



3.      ด้านสังคม
3.1.   เด็กจะไม่ไปโรงเรียนหรือไปโรงเรียนสายเพราะเอาเวลาไปเล่นเกม ซึ่งเป็นผลทำให้มีผลการเรียนตกต่ำ ไม่ยอมทำการบ้าน ไม่อ่านหนังสือ ไม่มีสมาธิในการเรียน สมองเฉื่อย สุดท้ายส่งผลให้เด็กเรียนไม่จบ
3.2.   ด้านพฤติกรรม เกิดปัญหาเด็กโกหก ลักขโมย ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เกิดปัญหาภายในครอบครัว เพราะเด็กจะติดเกมจนไม่เชื่อฟังผู้ปกครอง หรือเด็กอาจขโมยหรือหลอกเอาเงินจากผู้ปกครองไปเล่นเกม ทำให้ขาดความสัมพันธ์ในครอบครัว ไม่มีเวลาให้กัน ขาดความเข้าใจ โกรธใส่กัน
3.3.   แต่ก็มีผลดีทำให้เกิดการเรียนรู้ในการเข้าสังคม เพราะในเกมออนไลน์จะมีการแชทพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เล่นด้วยกัน มีการให้ความช่วยเหลือกัน และมีการร่วมเล่นกันเป็นทีม เช่น Mimi Ito นักมานุษยวิทยา จาก Southern California University กำลังทำการวิจัยเรื่องการสื่อสารรูปแบบใหม่ ในผู้ที่เล่นเกม Real-Life Local Friends ที่กระตุ้นให้มีการเข้าสังคมมากขึ้น



ข้อดีของเด็กในการเล่นเกมส์



              ด้านสมอง
มีการพัฒนาเส้นใยสมอง
สมองซีกขวาได้รับการพัฒนาตามภาพ ตามจิตนาการของเกม



                      ด้านจิตใจ
- เป็นแรงจูงใจ
- เป็นความพยายามที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายของการเล่นเกมสามารถนำต้นแบบของการพยายามไปใช้กับการทำงานด้านอื่นได้ เช่น การทำการบ้าน การอ่านหนังสือ และการแสวงหาวิธีการเรียนรู้ได้




                   ด้านทักษะ
- มีทักษะในการใช้เมาส์ หรือการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งสามารถจะพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้คอมพิวเตอร์ด้านอื่น ๆ ต่อไปได้ เช่น ทักษะการพิมพาตัวอักษร  ทักษะการแสวงหาความรู้จากสื่ออิเล็คทรอนิค ต่าง ๆ ได้ เช่น การใช้สื่อ CAI การหาความรู้ทางอินเตอร์เน็ต  การทำข้อสอบทางสื่ออิเล็คทรอนิค  ซึ่งการแสวงหาความรู้แบบนี้จำเป็นต้องมีการใช้ทักษะการใช้คีร์บอร์ด การใช้เมาส์ เป็นต้น